10 วิธีเซฟเงิน ไม่ให้หมดตัวไปกับ "งานกลุ่ม"












1.วางแผนก่อนทำงาน

     "การวางแผน" ช่วยได้ จะทำให้รู้ว่า ต้องทำอะไรก่อนหลัง ใครต้องทำอะไร ทำยังไงให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดในเวลาที่กำหนด ที่สำคัญ การวางแผน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะทีเดียว เพราะเรารู้แล้วว่าจะทำงานชิ้นไหน ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง ก็ลิสต์และซื้อของตามรายการที่ต้องใช้ ตรงกันข้าม ถ้าไม่คิดอะไรมาก่อนเลย แล้วซื้อวันละอย่างสองอย่าง ทั้งเสียค่ารถและค่าเสียเวลา




2.อุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วไม่ต้องซื้อใหม่

     เครื่องมือที่ใช้กันอยู่บ่อยๆ เช่น กรรไกร คัตเตอร์ เทปสองหน้า ฯลฯ อุปกรณ์พวกนี้ที่บ้านต้องมีแน่นอน ยืมจากที่บ้านมาใช้ก่อน ไม่ต้องซื้อใหม่ หรือถ้าซื้อใหม่ หลังใช้งานเก็บรักษาไว้ดีๆ และนำมาใช้ในงานครั้งอื่นๆยิ่งให้คุ้มเท่าไหร่ ต้นทุนก็จะถูกลงเรื่อยๆ









3.เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย

     ความหมายก็คือ งกไม่เข้าเรื่องนั้นเอง เมื่อตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะลดค่าใช้จ่ายงานกลุ่ม ก็ต้องโฟกัสให้ถูกจุด จากข้อที่แล้ว ถ้าไม่มีของที่บ้านต้องซื้อใหม่ ควรซื้อของที่มีคุณภาพไปเลย
     ของมีคุณภาพในที่นี้ ไม่ใช่ของแพงเสมอไป ของดีราคากลางๆก็มีให้เห็นเยอะ ดีกว่าซื้อของถูก แต่ยังไม่ทันใช้ก็พังซะแล้ว เช่น กรรไกรถูกๆใช้ไปสักพักก็ตัดไม่ออก หรือ เทปกาวแบบต่างๆที่ราคาถูก แปะอะไรก็ไม่ติด พอได้ของไม่มีคุณภาพมา ก็ไปซื้อใหม่




4.ใช้วัสดุทดแทน

     มารื้อบ้านต่ออีกหน่อย ของเก่าๆในบ้าน ก็อาจจะมีประโยชน์โดยไม่รู้ตัว อย่างที่บอกไปข้อแรกว่า วางแผน ก่อน เมื่อวางแผนแล้ว จะรู้ว่าต้องใช้อะไร ก็สำรวจจากเพื่อนๆในกลุ่มว่าบ้านใครมีอะไรบ้าง วัสดุทดแทนก็เช่น แทนที่จะใช้กระดาษใหม่ทั้งหมด ก็ลองดูว่างานนั้นใช้กระดาษหน้าเดียวได้ไหม ถ้าได้ ก็ใช้กระดาษรียูส หรือ จะทำงานที่เปื้อนสี แทนที่จะซื้อพลาสติกมาปู ก็ไปดูที่บ้านว่ามีกระดาษหนังสือพิมพ์ไหม เงินก็ไม่เสีย แถมยังลดขยะในบ้านอีก




5.ซื้อของเป็นโหล

     หลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าไปซื้อของบางที่ จะมี ราคาขายปลีก กับ ราคาขายส่ง ราคาขายส่งก็คือ ขายของหลายๆชิ้น บางทีก็ถูกกว่าเยอะเลย เช่น ชิ้นละ 39 แต่ถ้าซื้อ 6 ชิ้นขึ้นไปเหลือชิ้นละ 25 บาท เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้จำเป็นว่าต้องซื้อทุกอย่างเป็นโหล
     ก่อนอื่น ต้องมองกันยาวๆว่า อะไรที่ใช้บ่อยในงานกลุ่ม เช่น กาวสองหน้า ฟิวเจอร์บอร์ด เทปกาว ฯลฯ พวกนี้สามารถซื้อเก็บไว้ได้ เพราะยังไงก็มีโอกาสได้ใช้อีก แต่อะไรที่ซื้อใช้ชั่วคราวเฉพาะงาน เช่น ทำบอร์ดคริสต์มาส ต้องใช้สำลีมาทำหนวดลุงซานต้า แบบนี้ซื้อมาแค่ห่อเดียวใช้เฉพาะงานนี้ก็พอ
     การซื้อราคาส่ง ทำให้เราได้ของในราคาที่ถูกลง และไม่ต้องวิ่งหาซื้อบ่อยๆด้วย แต่ถึงจะได้ของมาตุนไว้ใช้งานเยอะ ก็พยายามใช้อย่างประหยัดเหมือนเดิม เพื่อมีใช้งานนานๆ




6.ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

     เก็บเงินเพื่อนมาเท่าไหร่ ซื้ออะไรไปบ้าง ควรจดทุกเม็ด มันไม่ใช่แค่ทำให้รู้ว่าเงินเหลือเท่าไหร่ แต่จะช่วยฝึกนิสัยให้เป็นระเบียบ รอบคอบ และยังทำให้รู้ว่าเราเคยใช้จ่ายอะไรในราคาเท่าไหร่ เพราะบ่อยครั้งที่เราซื้อของเดิมๆ แต่จำราคาไม่ได้อาจได้ของที่แพงกว่าเดิมโดยไม่จำเป็น ข้อดีอีกอย่างคือ ให้เพื่อนๆได้รู้ความเป็นไปของเงินกลุ่มด้วย




7.อย่าซื้อของเพราะมันน่ารัก เดี๋ยวจะไม่ได้ใช้!

     เวลาเข้าร้านเครื่องเขียนแต่ละที จะมีของใช้จุ๊กจิ๊กน่ารัก เช่น สติ๊กเกอร์ ปากกาสีฟรุ้งฟริ้ง เป็นต้น ของพวกนี้เคยทำให้เสียเงินซื้อมาแล้ว แต่พอมาอยู่ที่บ้าน หาโอกาสใช้ไม่ได้สักที มีดีแค่น่ารักอย่างเดียวจริงๆ ถ้าไม่ขัดสนอะไร จะซื้อสะสมเพื่อความสบายใจก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยากประหยัดงบก็อย่าเผลอท่าเสียทีให้กับของน่ารัก นอกจากจะไม่ได้ใช้แล้วยังแพงอีกด้วย




8.พยายามทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด

     ถ้ามีการนัดมาทำงาน ต้องทำให้เสร็จ! ไม่อย่างนั้นมันก็จะยาวไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด ที่สำคัญ จะพยายามทำหลังเลิกเรียน หรือ ถ้านัดในวันหยุดต้องทำให้เสร็จ เพราะทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน มีค่าใช้จ่าย ค่ารถ ค่ากิน ไปบ่อยๆ ก็จะเปลืองเงินได้ ดังนั้น เซฟกันตั้งแต่ต้นด้วยการทำให้เสร็จในเวลา แต่ไม่นัดนอกสถานที่บ่อยๆ









9.พยายามด้วยตนเอง ก่อนจ้างคนอื่น

     สมัยนี้งานเยอะท่วมหัว การจ้างคนอื่นทำในบางส่วนอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เช่น พิมพ์งาน วาดรูป หรือประดิษฐ์ของต่างๆ แน่นอนว่าจ้างคนอื่นทำ ต้องมีค่าใช้จ่าย แพงด้วย ดังนั้น เราควรทำอะไรด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ก่อน ไม่ได้มองแค่ในเรื่องความประหยัด แต่มันคือโอกาสที่เราจะได้พัฒนาตัวเองด้วย




10.เงินกลุ่มอย่าหาย

     ประหยัดเงินทุกอย่างมาอย่างดี มียอดเงินคงเหลือในกลุ่มก็หลายรอบ แต่ดันทำหาย ที่ประหยัดๆมากลายเป็นแพงที่สุดเลย ข้อนี้สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเงินเรา หรือ เงินกลุ่ม เก็บรักษาให้ดี ทุกบาทแลกมาจากความเหนื่อยของพ่อแม่ทั้งนั้น และจงใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด








ความคิดเห็น